10 เคล็ดลับดูแลรถยนต์ช่วงหน้าฝน || Lifestyle AKRA LandandHouse
By Admin | 16 มิถุนายน 2564
เมื่อเริ่มเข้าหน้าฝนนอกจากเราจะต้องดูแลสุขภาพตนเองและบ้านที่อยู่อาศัย รถยนต์ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เราจำเป็นต้องดูแลในช่วงนี้เช่นกัน ครั้งนี้เราจึงรวบรวมเคล็ดลับในการดูแลรถยนต์ในฤดูฝนมาให้ทุกท่านได้นำไปลองใช้กัน
1. กระจกหน้ารถยนต์
กระจกหน้ารถยนต์ เป็นสิ่งที่สำคัญที่จะทำให้เรามีวิสัยทัศน์ในการขับขี่ได้ดี หากในช่วงหน้าฝนคุณไม่ได้ทำความสะอาดก็อาจจะเกิดคราบน้ำหรือสิ่งสกปรกบดบังทำให้วิสัยทัศน์การขับขี่ลดลงได้ สำหรับการทำความสะอาดกระจกหน้ารถยนต์เพียงใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดเช็ดและใช้ผ้าแห้งที่สะอาดเช็ดตามอีกทีก็จะช่วยให้คราบต่าง ๆ หายไปได้ หรืออาจจะใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันหยดน้ำเกาะกระจกก็จะช่วยให้การมองเห็นระหว่างฝนตกดีขึ้น
2. ระบบไฟส่องสว่าง
ไฟส่องสว่างภายในรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็น ไฟหน้า , ไฟตัดหมอก , ไฟท้าย หรือไฟเลี้ยว ล้วนแต่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ในเวลากลางคืนหรือในช่วงฝนตก หากเราไม่ได้เช็คความพร้อมของระบบไฟส่องสว่างและไม่ได้ทำความสะอาด อาจจะทำให้การมองเห็นในช่วงเวลากลางคืนลดลงอย่างมาก รวมถึงไฟท้ายที่เป็นจุดสังเกตุให้รถยนต์คันอื่นมองเห็น หากมีการชำรุดหรือสภาพไม่พร้อมใช้งาน ทำให้สามารถเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดได้เช่นกัน ดังนั้นเราควรเช็คระบบไฟส่องสว่างในช่วงหน้าฝนตลอด และใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดเช็ดคราบสกปรกต่าง ๆ ที่เกาะติดอยู่กับไฟหน้าให้หมดไป
3. ที่ปัดน้ำฝน
ยางปัดน้ำฝน อีกหนึ่งชิ้นส่วนที่สามารถสึกหรอก่อนช่วงฤดูฝน เพราะในฤดูร้อนรถยนต์เกือบทุกคันไม่ได้ใช้งานที่ปัดน้ำฝนจึงทำให้ยางของที่ปัดน้ำฝนเมื่อโดนอากาศร้อนมาก ๆ อาจเสื่อมสภาพได้โดยไม่รู้ตัว พอหลังจากฤดูร้อนก็เข้าสู่ฤดูฝนพอจะใช้งานที่ปัดน้ำฝนก็ไม่สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ เพราะเช่นนั้นเมื่อถึงฤดูฝนควรตรวจเช็คยางที่ปัดน้ำฝนว่าแข็งผิดปกติหรือมีรอยขาดไหม หากเจอปัญหาควรรีบหาร้านอะไหล่เพื่อเข้าไปเปลี่ยนทันที
4. ยางรถยนต์
ยางรถยนต์ เป็นส่วนที่สัมผัสกับหน้าถนนตลอดเวลา อุบัติเหตุส่วนใหญ่ของช่วงหน้าฝนมักจะเป็นอุบัติเหตุที่เกิดมาจากการเสียหลักลื่นไถล เนื่องจากยางรถยนต์จะมีร่องลายยางเพื่อรีดน้ำเมื่อเจอน้ำขัง หากยางรถยนต์เสื่อมสภาพหรือดอกยางหมด เพียงแค่ฝนตกเบา ๆ ก็อาจจะทำให้รถยนต์เสียหลักเกิดอุบัติเหตุได้เช่นกัน ควรจะเช็คสภาพยางรถยนต์ในช่วงหน้าฝนว่าดอกยางหรือร่องยางยังลึกอยู่ไหม รวมถึงสภาพของยางรถยนต์มีอาการบวม เนื้อยางแข็งหรือแตกลายงาหรือไม่ หากพบเจอปัญหาเหล่านี้ควรรีบเข้าไปเปลี่ยนยางรถยนต์ทันที
5. ระบบเบรก
ระบบเบรกหรือระบบห้ามล้อ เป็นระบบที่สำคัญในเรื่องของความปลอดภัยในขณะขับขี่รถยนต์ เนื่องจากหากคุณไม่ได้ตรวจเช็คระบบเบรก นั่นหมายถึงในช่วงฝนตกประสิทธิภาพของการหยุดรถอาจจะลดน้อยลงไปจนถึงหยุดรถไม่ได้ สามารถตรวจเช็คได้ด้วยตนเองตามนี้ ระยะเหยียบเบรกลึกกว่าปกติหรือไม่ เบรกมีเสียงแปลกหรือไม่ ผ้าเบรกยังพอมีให้ใช้งานไหม ปริมาณน้ำมันเบรกลดลงผิดปกติไหม หากพบเจอควรนำรถยนต์เข้าตรวจเช็คระบบเบรกทันที เพื่อความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นบนท้องถนน
6. เครื่องปรับอากาศ
แอร์ภายในรถยนต์ จะช่วยลดการเกิดฝ้าที่กระจกหน้าและกระจกหลังได้ ในช่วงเวลาฝนตก หากแอร์คุณเสียจะทำให้เกิดฝ้าขึ้นบริเวณกระจกจำนวนมาก คุณอาจจะต้องยอมที่จะเปิดหน้าต่างเพื่อไล่ฝ้าออกจากกระจก แต่การเปิดกระจกจะทำให้ฝนสามารถสาดเข้ามาภายในรถได้ ดังนั้นตรวจเช็คระบบปรับอากาศรวมถึงทำความสะอาดตู้แอร์และเปลี่ยนกรองแอร์ เพื่อลดปัญหาที่จะเกิดขึ้นในช่วงฝนตก
7. ล้างรถ
การล้างรถ หลายคนอาจจะสงสัยล้างทำไมในเมื่อล้างไปฝนก็ตกใส่อยู่ดี แต่หากคุณใช้งานรถยนต์ในช่วงฝนตกและไม่ยอมล้างคราบน้ำ ดินโคลนสิ่งสกปรกต่าง ๆ ออกทันที นั่นหมายถึงสีตัวรถของคุณอาจจะถูกกัดกร่อนจากสิ่งสกปรกเหล่านี้ ดังนั้นหากคุณใช้งานรถยนต์หลังฝนตกควรใช้น้ำสะอาดฉีดล้างคราบสกปรกต่าง ๆ ก็เพียงพอ หรืออาจจะใช้แว็กซ์เคลือบเงาบนตัวรถหลังจากล้างรถเสร็จ ก็จะช่วยเรื่องคราบน้ำต่าง ๆ เกาะติดพื้นผิวรถน้อยลง
8. ความสะอาดภายในรถยนต์
ภายในห้องโดยสาร ของรถยนต์ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องดูแลเป็นพิเศษในช่วงหน้าฝน เพราะภายในห้องโดยสารจะเป็นส่วนที่ได้รับความสกปรกต่อจากรองเท้าที่เปียกชื้นของคุณ ความชื้นนี้จะทำให้ห้องโดยสารมีกลิ่นเหม็นอับ หากคุณยังเฉยชากับความชื้นและกลิ่นพวกนี้ มันอาจจะเกิดเชื้อราที่จะทำให้สุขภาพของคุณแย่ลงก็เป็นได้ การมีถาดรองเท้าเพื่อป้องกันพรมในรถคุณชื้นหรือสกปรกก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี นอกจากนี้ควรฉีดแอลกอฮอลหรืออบโอโซนภายในห้องโดยสารบ้าง เพื่อลดกลิ่นไม่พึงประสงค์และเชื้อโรคต่าง ๆ ที่ซ่อนอยู่ภายในห้องโดยสารรถยนต์ของคุณ
9. ใต้ท้องรถยนต์
ใต้ท้องรถ เป็นจุดที่คนทั่วไปส่วนใหญ่ไม่ได้ตรวจเช็คมากที่สุด ในจุดนี้อาจไม่จะเป็นสำหรับคนที่มีคนใหม่ป้ายแดง แต่ก็เป็นจุดที่ควรจะตรวจเช็คดูทุกปี นอกจากนี้ลูกยางหรือซีลยางของระบบช่วงล่างรถยนต์ต่าง ๆ อาจจะเสื่อมหรือฉีกขาด หากคุณเอารถไปลุยน้ำหน้าฝนอาจจะทำให้ชื้นส่วนเกิดการฝืดหรือติดขัดได้ รวมถึงการพ่นกันสนิมให้ท้องรถ ควรพ่นทุก ๆ สองปีเป็นอย่างน้อย เพื่อป้องกันการเกิดสนิมหรือการผุกร่อนใต้ท้องรถ
10. การขับขี่
การขับขี่รถยนต์ ระหว่างฝนตกควรเลือกขับบนถนนเลนกลางเนื่องจากเลยซ้ายสุดและขวาสุดมักจะชอบมีน้ำขัง หากเราวิ่งลุยน้ำขังอาจจะทำให้น้ำสกปรกกระเด็นเข้าห้องเครื่องรถยนต์หรือเข้าใต้ท้องรถยนต์ได้ และอาจจะทำให้ควบคุมรถยนต์ไม่อยู่หากเราวิ่งมาด้วยความเร็วและเจอแอ่งน้ำขัง ดังนั้นการขับขี่ควรลดการใช้ความเร็ว มีสติ หากเจอฝนตกหนักมากเกินไปควรหาที่จอดหลบก่อนจะปลอดภัยกว่า
อยากมีบ้านปรึกษาเรา AKRA LandandHouse
Facebook : www.facebook.com/AKRALandandHouse
ติดต่อเข้าชมโครงการได้ทุกวันตั้งแต่ 09.00 - 18.00 น.
สอบถามเพิ่มเติมโทร. 083-051-8008